รอบขา (Running Cadence) คืออะไร?
รอบขาคือจำนวนก้าวที่เกิดขึ้นใน 1 นาที โดยมีหน่วยวัด 2 แบบ:
- SPM (Steps per minute): นับทั้งสองขา
- RPM (Revolutions per minute): นับขาข้างเดียว
สามารถวัดได้ง่ายๆ เช่น ก้าวขาขวาใน 15 วินาที = 22 ครั้ง → คำนวณ 22 × 2 × 4 = 176 SPM
5 เทคนิคฝึกรอบขา
- ใช้นาฬิกาจับเวลา
- วัดรอบขาปัจจุบันด้วยการนับจำนวนก้าวใน 1 นาที เพื่อตั้งเป้าหมายในการเพิ่มรอบขา เช่น ตั้งเป้าที่ 180 SPM
- ใช้แอพจับจังหวะ (Metronome)
- ตั้งจังหวะที่ 180 bpm แล้วฝึกวิ่งตามเสียงจังหวะเพื่อให้เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ
- ฟังเพลงจังหวะเร็ว
- ดาวน์โหลดเพลงที่มีจังหวะ 180 bpm เปิดฟังขณะวิ่ง เพื่อทำให้การฝึกสนุกและไม่น่าเบื่อ
- สังเกตฟอร์มการวิ่ง
- ผ่อนคลายร่างกาย ไม่เกร็งจนเกินไป รักษาฟอร์มการวิ่งให้ถูกต้อง เช่น การลงน้ำหนักที่กลางเท้า
- ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง
- ฝึก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเพิ่มจังหวะรอบขาทีละเล็กน้อย จนกลายเป็นธรรมชาติ
แบบฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรอบขา
- Strides:
- วิ่งเร่งความเร็วสั้นๆ 20-30 วินาทีหลังซ้อมวิ่งปกติ เพื่อพัฒนาการตอบสนอง (turnover)
- กระโดดเชือก:
- กระโดดเชือกอย่างเร็วและต่ำ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง
- วิ่งลงเนิน:
- ใช้แรงโน้มถ่วงช่วยเพิ่มรอบขา วิ่งระยะทาง 100-200 เมตร 4-6 เซตบนเนินที่ไม่ชันเกินไป
- ฝึกแกว่งแขน:
- การแกว่งแขนสัมพันธ์กับจังหวะขา ฝึกแกว่งแขนด้วยขวดน้ำหรือดัมเบลเบาๆ เพื่อเพิ่มแรงต้าน
- ปั่นจักรยาน:
- ปั่นจักรยานด้วยรอบขาสูงเพื่อช่วยปรับระบบประสาทให้ตอบสนองต่อการก้าวเร็วขึ้น
ตัวอย่างการฝึกฝน (Pedaling Technique – PT)
- วอร์มอัพ 10 นาทีในโซนหัวใจ 1
- ฝึกรอบขา 1 นาที (60 spm) คุมหัวใจในโซน 1-3
- ค่อยๆ เพิ่มรอบขาจนพีคในช่วงท้าย
- จ็อกช้าๆ 2 นาที
- ทำทั้งหมด 4 เซต และจ็อกปิดท้ายอีก 4 นาที
การฝึกรอบขาอาจฟังดูซับซ้อนในช่วงแรก แต่หากฝึกอย่างสม่ำเสมอ คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ช่วยให้การวิ่งเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อ้างอิง: